ประโยชน์รีโมทเซนซิ่ง....
รีโมทเซนซิง
ได้นำมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศหลายด้าน ซึ่งเราสามารถประยุกต์ใช้ในงานต่างๆ
เช่น
การใช้ที่ดิน
การใช้ที่ดิน
· รีโมทเซนซิง สามารถใช้แปล รูปแบบการใช้ที่ดินประเภทต่างๆ
และนำผลลัพธ์ที่ได้มาจัดทำแผนที่การใช้ที่ดิน
· รีโมทเซนซิง
นำมาใช้สนับสนุนติดตามและประเมินแนวโน้มการใช้ที่ดินประเภทต่างๆ เช่น ด้านการเกษตร
พื้นที่ป่าไม้ เป็นต้น
การเกษตร
· ภาพถ่ายจากดาวเทียมใช้สำรวจบริเวณพื้นที่เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ
เช่น พื้นที่ปลูกข้าว ปาล์มน้ำมัน ยางพารา สัปปะรด อ้อย ข้าวโพด ฯลฯ
เช่น พื้นที่ปลูกข้าว ปาล์มน้ำมัน ยางพารา สัปปะรด อ้อย ข้าวโพด ฯลฯ
· ผลลัพธ์จากการแปลภาพใช้ประเมินการเปลี่ยนแปลงการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจในแง่
ปริมาณ ราคา ช่วงเวลา ฯลฯ
ปริมาณ ราคา ช่วงเวลา ฯลฯ
· ติดตามขอบเขตและความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ป่าและเขตอนุรักษ์พันธุ์ไม้
· ประเมินบริเวณพื้นที่ที่เหมาะสม
(มีศักยภาพ) ในการปลูกพืชต่าง ๆ เช่น ข้าว ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง เป็นต้น
(มีศักยภาพ) ในการปลูกพืชต่าง ๆ เช่น ข้าว ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง เป็นต้น
ธรณีวิทยา
· การใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียมแปลสภาพพื้นที่เพื่อจัดทำแผนที่ธรณีวิทยาและโครงสร้างทางธรณี
ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต้องใช้เวลาและงบประมาณในการสำรวจ และนำมาสนับสนุนในการพัฒนาประเทศ เช่น เพื่อการประเมินหาแหล่งแร่
แหล่งเชื้อเพลิงธรรมชาติ แหล่งน้ำบาดาล การสร้างเขื่อน เป็นต้น
ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต้องใช้เวลาและงบประมาณในการสำรวจ และนำมาสนับสนุนในการพัฒนาประเทศ เช่น เพื่อการประเมินหาแหล่งแร่
แหล่งเชื้อเพลิงธรรมชาติ แหล่งน้ำบาดาล การสร้างเขื่อน เป็นต้น
· การใช้รีโมทเซนซิง มาสนับสนุนการจัดทำแผนที่ภูมิประเทศ
การวางผังเมือง
· ใช้รีโมทเซนซิง ภาพถ่ายจากดาวเทียมรายละเอียดสูง
เพื่อใช้ติดตามการขยายตัวของเมือง
· ภาพถ่ายจากดาวเทียมช่วยให้ติดตาม การเปลี่ยนแปลงลักษณะ/รูปแบบ/ประเภทการใช้ที่ดิน
· ใช้ภาพถ่ายรายละเอียดสูง ติดตามระบบสาธารณูปโภค เช่น ระบบคมนาคมขนส่งทางบก
ทางน้ำ BTS ไฟฟ้า
เป็นต้น
เป็นต้น
· ผลลัพธ์จากการแปลภาพถ่ายจากดาวเทียมนำมาใช้ในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์วิเคราะห์การพัฒนาสาธารณูปการ
เช่น การจัดสร้าง/ปรับปรุง สถานศึกษา โรงพยาบาล สถานีตำรวจ ดับเพลิง ไปรษณีย์
ห้องสมุด สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ เป็นต้น
เช่น การจัดสร้าง/ปรับปรุง สถานศึกษา โรงพยาบาล สถานีตำรวจ ดับเพลิง ไปรษณีย์
ห้องสมุด สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ เป็นต้น
สิ่งแวดล้อม
· รีโมทเซนซิง ได้ใช้แปลสภาพทรัพยากรชายฝั่งที่เปลี่ยนแปลง
เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาวิเคราะห์การจัดการทรัพยากรชายฝั่ง
เช่น
การพังทลายของดินชายฝั่ง การทำลายป่าชายเลน การทำนากุ้ง การอนุรักษ์ปะการัง
เป็นต้น
· ภาพถ่ายจากดาวเทียมในช่วงคลื่น visible ช่วยในการ
ศึกษา/ติดตาม/ตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของคุณภาพน้ำ
· ผลลัพธ์จากการแปลภาพนำมาประกอบระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ในการวิเคราะห์ความรุนแรงของปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อมทางด้านน้ำ
อากาศ เสียง ขยะ และสารพิษ· รีโมทเซนซิงจึงช่วยสนับสนุนการวางแผนพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
โบราณคดี
·
ภาพถ่ายจากดาวเทียมรายละเอียดสูง
ใช้ติดตามพื้นที่ แหล่งชุมชนโบราณ หรือพื้นที่โบราณสถาน
·
ภาพถ่ายจากดาวเทียมรายละเอียดสูง
ช่วยติดตามเพื่อการบำรุงรักษา คู คันดินรอบชุมชน
สระน้ำหรือบาราย
เขื่อน
สมุทรศาสตร์และการประมง
· รีโมทเซนซิงใช้ในการศึกษาเกี่ยวกับการไหลเวียนของน้ำในท้องทะเล
· ศึกษาตะกอนในทะเลและคุณภาพของน้ำบริเวณชายฝั่ง
เช่น การแพร่ของตะกอนแขวนลอยจากการทำเหมืองแร่ในทะเล
เช่น การแพร่ของตะกอนแขวนลอยจากการทำเหมืองแร่ในทะเล
ศึกษาการประมงด้วยภาพดาวเทียมเรดาร์ที่เห็นพื้นที่ประมงน้ำเค็ม
· ภาพถ่ายจากดาวเทียม
สามารถใช้ถ่ายพื้นที่ที่ได้รับเหตุอุบัติภัย และกำหนดขอบเขตบริเวณที่เกิดอุบัติภัย
ได้ ติดตามและประเมินผลเสียหายเบื้องต้น
· ภาพถ่ายจากดาวเทียมนำมาใช้ศึกษาลักษณะการเกิดและประเมินความรุนแรง
ผลลัพธ์ที่ได้จากการแปลพื้นที่ได้รับผลกระทบ
เพื่อการวางแผนช่วยเหลือ
การทำแผนที่
ภาพถ่ายจากดาวเทียม ที่ทันสมัยนำมาปรับปรุงแผนที่ภูมิประเทศมาตราส่วนใหญ่ 1:50000 ได้อย่างรวดเร็ว ทันสมัย
· ศึกษาลักษณะการเปลี่ยนแปลง
ทางด้านภูมิประเทศ เส้นทางการคมนาคม หรือสิ่งก่อสร้างที่เกิดขึ้นใหม่
ทางด้านภูมิประเทศ เส้นทางการคมนาคม หรือสิ่งก่อสร้างที่เกิดขึ้นใหม่
· ใช้ในการวางแผน/การมองภาพรวมที่รวดเร็วและถูกต้อง
· จัดทำภาพสามมิติ
ทรัพยากรน้ำ/อุทกวิทยา
รีโมทเซนซิง ใช้ศึกษาแหล่งน้ำทั้งบนบก ในทะเล น้ำบนดินและใต้ผิวดิน
· ศึกษาองค์ประกอบอื่นๆที่สัมพันธ์กับน้ำ เช่น ปริมาณ คุณภาพ การไหล
การหมุนเวียน เป็นต้น
แหล่งข้อมูล...
http://www.scitu.net/gcom/?p=739
ดาวเทียมสำรวจทรัพยากร..
- รายละเอียดภาพ
1) 2 เมตร (แบบช่วงคลื่นเดียว) ความกว้างแนวภาพ 22 กม.
2) 15 เมตร (แบบหลายช่วงคลื่น) ความกว้างแนวภาพ 22 กม.
แหล่งข้อมูล....
https://sites.google.com/site/geographeibyjik/home-1/geographic-information-systems/gis
ทฤษฏีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า...
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นพลังงานรูปหนึ่งที่ส่งผ่านจากดวงอาทิตย์โดยการแผ่รังสี
พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ประกอบไปด้วย สนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้า
โดยที่ทิศทางของสนามไฟฟ้าและทิศทางของสนามแม่เหล็ก
มีการเคลื่อนที่ของคลื่นตั้งฉากซึ่งกันและกัน (แบบฮาร์โมนิค (Hamonic) คือ
มีช่วงซ้ำและจังหวะเท่ากันในเวลาหนึ่งและมีความเร็วเท่าแสง)
ซึ่งมีความสัมพันธ์กันดังนี้
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าประกอบไปด้วยคลื่นที่มีความยาวช่วงคลื่นในหลากหลายช่วงคลื่น
ตั้งแต่สั้นที่สุดไปจนถึงยาวที่สุด ซึ่งในแต่ละช่วงคลื่นจะมีคุณสมบัติเฉพาะตัว ความยาวคลื่นและความถี่คลื่นมีความสัมพันธ์กันแบบผกผัน
กล่าวคือ ถ้าความยาวคลื่นมาก ความถี่จะน้อย หรือความยาวคลื่นน้อย ความถี่จะมาก
โดยทั่วไป หน่วยวัดความยาวคลื่นที่ใช้ในงานรีโมทเซนซิง มักใช้เป็น ไมโครเมตร
ตารางแสดงประเภทของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า....
ประเภทคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
|
ความยาวช่วงคลื่น
|
ความถี่
|
คุณสมบัติ
|
1. รังสีแกมมา (gamma ray)
|
< 0.03 nm.
|
> 3,000 THz
|
ถูกดูดกลืนทั้งหมดโดยชั้นบรรยากาศชั้นบน
จึงไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ในการสำรวจจากระยะไกล
|
2. รังสีเอกซ์ (x-ray)
|
0.03-3.0 nm.
|
> 3,000 THz
|
ถูกดูดกลืนทั้งหมดโดยชั้นบรรยากาศชั้นบนเช่นกัน
จึงไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ในการสำรวจจากระยะไกล
|
3. รังสีอัลตราไวโอเลต (ultraviolet)
|
0.03-0.4 mm
|
750-3,000 THz
|
ช่วงคลื่นสั้นกว่า 0.3 mm ถูกดูดซึมทั้งหมดโดยโอโซน (O3) ในบรรยากาศชั้นบน
|
4. คลื่นอัลตราไวโอเลตที่ใช้ในการถ่ายภาพ
(photographic ultraviolet band) |
0.03-0.4 mm
|
750-3,000 THz
|
ช่วงคลื่นนี้สามารถผ่านชั้นบรรยากาศได้
สามารถถ่ายภาพด้วยฟิล์มถ่ายรูป แต่มีการกระจายในชั้นบรรยากาศเป็นอุปสรรค
|
5. คลื่นตามองเห็น (visible)
|
0.4-0.7 mm
|
430-750 THz
|
เป็นช่วงคลื่นที่บันทึกด้วยฟิล์มถ่ายภาพและอุปกรณ์บันทึกภาพได้ดี
โดยเป็นช่วงคลื่นที่ดวงอาทิตย์มีการสะท้อนพลังงานสูงสุด (reflected energy peak ที่ 0.5
mm) ช่วงคลื่นนี้แบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มที่ตอบสนองต่อสายตามนุษย์
คือ
|
ประเภทคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
|
ความยาวช่วงคลื่น
|
ความถี่
|
คุณสมบัติ
|
|
|
|
0.4-0.5 mm. ช่วงคลื่นสีน้ำเงิน
0.5-0.6 mm. ช่วงคลื่นสีเขียว 0.6-0.7 mm. ช่วงคลื่นสีแดง ซึ่งเป็นแม่สีแสงที่ก่อให้เกิดสีต่างๆ ที่เรามองเห็นในธรรมชาติ |
6. คลื่นอินฟราเรด (infrared)
แบ่งออกเป็นช่วงคลื่นย่อย ดังนี้ |
|
|
ช่วงคลื่นระหว่าง 0.7-0.9 mm สามารถถ่ายภาพด้วยฟิล์มพิเศษ เรียกว่า photographic
infrared film และเป็นช่วงที่โลกสะท้อนพลังงานสูงสุดที่ 9.7
mm
|
6.1 อินฟราเรดใกล้ (near infrared)
|
0.7-1.3 mm
|
230-430 THz
|
มีประโยชน์ต่อการศึกษาด้านพืชพรรณ การแยกแยะดินกับน้ำ
|
6.2 อินฟราเรดคลื่นสั้น
(short wave infrared) |
1.3-3.0 mm
|
100-230 THz
|
มีประโยชน์ต่อการศึกษาด้านการใช้ที่ดินแร่ธาตุ
|
6.3 อินฟราเรดคลื่นกลาง
(middle wave infrared) |
3.0-8.0 mm
|
38-100 THz
|
มีประโยชน์ด้านการแยกแยะแร่ธาตุวัตถุสะท้อนแสงสูง
|
6.4 อินฟราเรดความร้อน
(thermal infrared) |
8.0-14.0 mm
|
22-38 THz
|
ใช้ศึกษาโรคพืชเนื่องจากความร้อน
ความแตกต่างของความร้อนในพื้นที่ศึกษา ความแตกต่างของความชื้นของดิน
|
6.5 อินฟราเรดไกล (far infrared)
|
14.0 mm – 1 mm.
|
0.3-22 THz
|
ไม่ปรากฏการประยุกต์ใช้เพราะคลื่นนี้จะถูกชั้นบรรยากาศดูดกลืนจนเกือบทั้งหมด
|
7. คลื่นไมโครเวฟ (microwave)
แบ่งตามขนาดความยาวคลื่นได้ 3 กลุ่มย่อย |
0.1-30.0 cm.
|
|
เป็นช่วงคลื่นยาวที่สามารถทะลุผ่านหมอก เมฆ และฝนได้
สามารถบันทึกข้อมูลได้ทั้งระบบพาสซีฟและแอคทีฟ
|
7.1 ช่วงคลื่นขนาดมิลลิเมตร
|
1.0-10.0 mm.
|
30-300 GHz
|
|
7.2 ช่วงคลื่นขนาดเซนติเมตร
|
1.0-10.0 mm.
|
3-30 GHz
|
|
7.3 ช่วงคลื่นขนาดเดซิเมตร
|
0.1-1.0 dm.
|
0.3-3 GHz
|
|
8. คลื่นเรดาร์ (radar)
มีแบ่งย่อยเป็นช่วงคลื่นที่สำคัญ ดังนี้ |
0.1-30.0 cm.
|
30-300 MHz
|
เป็นระบบแอคทีฟ ที่สามารถทะลุผ่านหมอก เมฆ และฝนได้
|
8.1 Ka band
|
10 mm.
|
|
|
8.2 X band
|
30 mm.
|
|
|
8.3 L band
|
25 cm.
|
|
|
9. คลื่นวิทยุ (radio)
|
1 m. – 100 km.
|
3 KHz–300 MHz
|
เป็นช่วงคลื่นที่ยาวที่สุด บางครั้งมีเรดาร์อยู่ในช่วงนี้ด้วย
|
แหล่งข้อมูล.....
http://remotesensingrs.blogspot.com/2011/09/blog-post_2100.html
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)